บทความ

ขอคุยเรื่อง AI ปัญญาประดิษฐ์ พอให้เขาใจ

            AI = Artificial Intelligence  มาจาก  Artificial=เทียม/ปลอม/ไม่แท้/ประดิษฐ์ และ

Intelligence=สติปัญญา/เชาวน์/ความรู้จักคิด/ความฉลาด รวมกันภาษาไทยสรุป แปลว่า= “ปัญญาประดิษฐ์”    บริษัทซอฟต์แวร์ในโลกต่างก็พัฒนาซอฟต์แวร์ในการเรียนรู้จดจำ นำไปใช้ในงานที่เกี่ยวข้อง

             ผมขอพูดถึงเรื่องเกี่ยวกับ ภาพถ่าย (เน้นผู้ประกอบอาชีพร้านถ่ายรูป)  ส่วนใหญ่ผู้ออกแบบซอฟต์แวร์ ระยะแรกก็ออกแบบให้ใช้กับโทรศัพท์มือถือ ต่อมาก็พัฒนาให้ใช้ในคอมพิวเตอร์ ซึ่งก็ทำกันได้ดีบ้าง ด้อยบ้างต่างกันไป ด้านการตลาด บางบริษัทก็มีเงื่อนไขขายโปรแกรมแบบเช่าใช้รายเดือน บางบริษัทก็ขายขาด

             การจะให้สรุปว่าโปรแกรมอะไรดีที่สุด เป็นเรื่องยากมาก เพราะต่างบริษัทต่างก็พัฒนาไม่หยุดนิ่งผู้ที่จะใช้ก็ต้องอย่ายึดติดกับค่ายใดๆ เช่น Agfa konica Kodak fuji เหมือนอดีตในอาชีพของพวกเรา ด้านโปรแกรมก็มีหลายค่าย เช่น Remini / cre8tiveAI หรือ benvista photozoom pro และอีกมาก

             ก็พอสรุปว่ามีหลายค่ายครับ แต่เมือลองใช้ดูต่างก็พัฒนาเป็นแบบรวมลักษณะเหมือนการเขียนโปรแกรมให้คัดลอก รายละเอียดด้านข้างของจุดต่างๆ ในภาพมาเขียนซ้ำให้ดูคมเข้มขึ้น (generate dot) ผมก็ลองใช้มาเกือบทุกค่าย  มีอยู่ค่ายหนึ่งที่พัฒนาในลักษณะให้โปรแกรมคาดเดาเอาว่าจุดต่อๆ ไปควรเป็นอะไร ไม่ใช่ให้ทำซ้ำ ดูเป็น AI ปัญญาประดิษฐ์ ที่เข้าท่าที่สุดในปัจจุบัน ที่เหมาะกับการนำมาใช้กับร้านถ่ายรูป และค่ายนี้ออกแบบโปรแกรมมารวมถึง 8 โครงสร้างโปรแกรมการใช้งาน เช่น ปรับ Focus ปรับลด Noise ปรับไฟล์ภาพขยายใหญ่ ปรับแต่งพื้นหลัง ปรับภาพชัดอัตโยชนมัติ และอื่นๆ อีก ผมว่าค่ายนี้ดีที่สุดในปัจจุบัน (สำหรับมืออาชีพ) แต่อนาคตผมไม่ยืนยัน “เพราะโลกเราทุกสิ่งอย่างต่างจะต้องพัฒนาเพื่อให้อยู่รอดต่อไปได้” อย่าหยุดการเรียนรู้และพัฒนานะครับเพราะสิ่งใหม่ๆ เกิดขึ้นมาตลอดเวลา

             กลุ่ม “พัฒนาธุรกิจถ่ายภาพ” เรียนเชิญ ผู้ประกอบอาชีพร้านถ่ายรูป ไม่จำเป็นต้องเป็นสมาชิกของสมาคมธุรกิจถ่ายภาพ ก็ได้ มาร่วมเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ไปกับเรา พวกเราเป็นกลุ่มร้านถ่ายรูปจึงรู้ความต้องการของร้านถ่ายรูปด้วยกัน    เราต้องการคะแนนจากสมาชิกสมาคมธุรกิจถ่ายภาพ เพื่อเข้าเปลี่ยนแปลงการบริหารแบบเดิมๆ เราตั้งใจเข้าไปบริหารแบบมืออาชีพ ช่วยเพื่อนร่วมอาชีพ ร้านถ่ายรูปให้อยู่รอดได้ในวิกฤตปัจจุบัน  เราเป็นห่วงเพื่อนร่วมอาชีพของเราแม้ท่านไม่เป็นสมาชิกสมาคมฯ เราก็ยินดีช่วยจากใจจริงครับ

ด้วยความปรารถนาดีต่อเจ้าของร้านถ่ายรูปทุกร้าน

ดร.สุวิทย์  สบสารคาม

ผมเปิดร้านถ่ายรูปตั้งแต่ปี 2530 จนปัจจุบัน รวม 33 ปี

บจก.รื่นรมย์ สตูดิโอ (จ.ขอนแก่น)

บจก.โฟโต้ไลฟ (จ.มหาสารคาม)

บจก.โฟโต้ไลฟ (อุดร) (จ.อุดรธานี)

กลุ่ม “พัฒนาธุรกิจถ่ายภาพ 1-25”

เชื่อมั้ยว่าการขายของแบบไม่มีหน้าร้าน มีมานานแล้วนะ ???

ลายท่านอาจคิดว่า การขายสินค้าแบบไม่มีหน้าร้าน เพิ่งมามีในยุคออนไลน์ แต่ที่จริงการขายสินค้าแบบนี้มีมานานแล้วครับ จำได้ไหมครับ หนังสืออ่านเล่นที่เราเคยอ่านกัน เช่น ขายหัวเราะ ในแต่ละเล่มจะมีสามสี่หน้า ที่เป็นโฆษณาสินค้า แล้วมีใบสั่งซื้อสินค้า ชำระเงินโดยใช้ธนาณัติ หรือ จะมีโฆษณาที่ให้ขอแคตตาล็อกเป็นเล่ม เพื่อให้ไปขายสินค้าต่อ โดยมีส่วนต่างให้ คิดว่าคนอายุสามสิบกว่าถึงสี่สิบน่าจะเคยมีใครทำครับ จำได้ว่าสินค้าไม่ตรงปก 100% ครับ 555
ในยุคต่อมาจะเป็นการฝากขายในรายการโทรทัศน์ เช่น ทีวีไดเร็ค หรือ ช่องเคเบิ้ลต่างๆ สินค้าที่อยู่ในความทรงจำของหลายๆท่าน คงไม่พ้น แอบโดมิไนเซอร์ และ พิธีกร จอร์จ กับ ซาร่า ครับ กับประโยคปิดท้ายโฆษณา “ถ้าคุณโทรภายในสิบคนแรกรับฟรีทันที … เท่านั้นยังไม่พอ …”
จนมาถึงยุคเริ่มต้น online ในยุคแรกของการติดต่อค้าขายด้วยอินเตอร์เน็ตนั้น จะเป็นการส่งอีเมล์เพื่อการติดต่อ การค้าขายนั้นจะเริ่มต้นด้วยยุคของเว็บไซต์ฝากสินค้า ท่านที่ทำการตลาดออนไลน์ยุคแรกๆน่าจะรู้จักเว็บไซต์เหล่านี้กันดี pantipmarket หรือ dealfish olx ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อมาเป็น kaidee
ยุคต่อมาของการขายออนไลน์ จะเป็นการใช้เว็บบอร์ดในการขาย แรกเริ่มจะเป็นเว็บประจำเมืองหรือจังหวัด อย่างเช่น หาดใหญ่ => gimyong , ตรัง => trangzone , ขอนแก่น => khonkaenlink , เชียงราย => chiangraifocus , เชียงใหม่ => cm108 ซึ่งในแต่ละเว็บไซต์จะมีforumให้ขายสินค้า บางเว็บไซต์ก็จะมีสินค้าเป็นหมวดๆ เพื่อให้ค้นหาสินค้าได้สะดวกขึ้น
ในเวลาเดียวกับการขายสินค้าบนเว็บไซต์ประจำเมืองหรือจังหวัดนั้น จะมีเว็บไซต์อีกประเภทหนึ่งซึ่งได้รับความนิยมไม่แพ้กัน คือ เว็บไซต์ที่เป็นการรวมกลุ่มของคนที่มีความสนใจในเรื่องเดียวกัน เช่น กลุ่มรถ ก็จะแบ่งตามรุ่นรถอย่างเช่น teanaclub accordclub bmwthailand mercedesmania เป็นต้น ซึ่งในแต่ละกลุ่มก็จะมีกฎที่ต่างกันไป เช่น มีโพสต์ได้แค่โพสต์เดียวแล้วใส่สินค้าทั้งหมดรวมกัน , ดันโพสต์ได้วันละครั้ง หรือ ห้ามขายของตัดราคา ข้อดีของการขายสินค้าในกลุ่มเหล่านี้ คือ จะได้กลุ่มลูกค้าที่ตรงเป้าหมาย และ มีความสนใจในสินค้านั้นๆอย่างแท้จริง
จุดเปลี่ยนอีกครั้งของการขายสินค้าออนไลน์ คือ การมาของเฟสบุ้ค ในช่วงแรกนั้นเฟสบุ้คจะสามารถใช้เพียงติดต่อพูดคุยระหว่างกลุ่มเพื่อนเท่านั้น จนกระทั่งมีการสร้างกลุ่มได้ ซึ่งมีการรวมตัวของผู้ที่สนใจในสิ่งเดียวกันเป็นกลุ่มจำนวนมาก เช่น ชุมนม เพื่อนร้านถ่ายภาพ , huawei club thailand , bmw onwers club thailand , thailand rolex forums club , รวมพลคนชอบเที่ยว ฮ่องกง มันส์ๆ ซึ่งการสร้างกลุ่มขายสินค้าในเฟสบุ้ค ถือเป็นการปิดฉากเว็บบอร์ดอย่างสมบูรณ์ เพราะเฟสบุ้คใช้งานสะดวกกว่า ผู้ใช้งานออนไลน์ตลอดเวลา อีกทั้งมีการแจ้งเตือนเมื่อโพสต์มีการถามหรือตอบ ในขณะที่เว็บบอร์ดผู้ใช้งานต้องคอยอัพเดทอยู่ตลอดเวลา ที่หลายๆท่านคงคุ้นกับคำว่า F5 รัวรัว
ทั้งหมดในบทความนี้ มาจากประสบการณ์ตรง ซึ่งหลายๆท่านจะเห็นว่า การค้าขายมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา เพราะฉะนั้น ไม่ว่าจะทำอะไร สิ่งสำคัญ คือ “ต้องปรับตัวให้ทัน เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยน คุณมีทางเลือกแค่สองทางครับ คือ ปล่อยให้มันกลืนคุณ หรือ ปรับตัวเพื่ออยู่กับมัน ขอให้ร่ำรวยและประสบความสำเร็จกับธุรกิจออนไลน์ในยุค 4.0 กันทุกท่านครับ พบกันใหม่เมื่อมีโอกาสครับ สวัสดีครับ”
WASUTHA SAE-IABCEO DTAWAN PHOTO Jjinter Supplyhttps://www.facebook.com/profile.php?id=100002097351842

แนวทางในการใช้สื่อออนไลน์ทำงานร่วมกันหลายๆช่องทาง

แนวทางในการใช้สื่อออนไลน์ทำงานร่วมกันหลายๆช่องทาง

โดย. Wasutha Sae-Iab

เว็บไซต์ ทำหน้าที่เป็นเหมือน โชว์รูม จัดแสดงสินค้าทั้งหมด ควรตกแต่งให้ดูน่าสนใจ น่าติดตาม ใช้งานง่าย เลือกดูสินค้าได้สะดวก หากสามารถปิดการขายได้โดยเว็บไซต์จะทำให้ทำงานง่ายขึ้นมาก

ปัจจุบันการทำเว็บไซต์ไม่ยากเหมือนสมัยยุคแรกๆ มีซอฟท์แวร์ให้ใช้งานมากมายทั้งงานกราฟฟิคและตัวเว็บไซต์ สามารถหาเรียนตามสถาบันต่างๆได้

หรือ ศึกษาด้วยตนเองจากหนังสือ หรือ อินเตอร์เน็ตได้

เฟสบุ้ค ทำหน้าที่เป็นเหมือน ฝ่ายโฆษณา ทำหน้าที่ประกาศข่าวต่างๆ เช่น สินค้าเข้าใหม่ บริการใหม่ๆ โปรโมชันต่างๆ การจัดอีเว้นท์ของบริษํท เชิญชวนลูกค้าเข้าร่วมงาน วันหยุด เป็นต้น

ยูทูบ ทำหน้าที่เป็นเหมือน ฝ่ายพีอาร์ ทำหน้าที่นำเสนอสินค้า ทดสอบสินค้าให้ลูกค้าชม ยิ่งสินค้ามีมูลค่ามากเท่าไร ยิ่งต้องทำคลิปให้น่าสนใจมากๆ เพราะการขายออนไลน์ลูกค้าไม่ได้สัมผัสสินค้าจริง

การซื้อสินค้าจึงเป็นการซื้อด้วยอารมณ์ คลิปที่ทำลงในยูทูบต้องทำให้ผู้ชมรู้สึกอยากซื้ออยากได้ ถึงจะสามารถปิดการขายได้

ไลน์ ทำหน้าที่เป็นเหมือน ฝ่ายขาย ไว้ปิดการขาย ตอบคำถามต่างๆของลูกค้า เพราะคนไทยส่วนใหญ่จะถนัดใช้ไลน์ ลูกค้าเมื่อสนใจสินค้าต่างๆ หรือ ต้องการจะสั่งซื้อสินค้า

มักจะแอดไลน์เข้ามาเพื่อพูดคุยสอบถามและสั่งซื้อผ่านช่องทางนี้ เพราะฉะนั้นแอดมินไลน์ของบริษัท จะต้องเป็นผู้ที่รู้ข้อมูลต่างๆและโปรโมชันของสินค้าทุกตัวในบริษัท

จะขายได้หรือไม่ ก็อยู่ที่การตอบไลน์ หน้าที่นี้จึงเป็นหน้าที่ที่สำคัญมาก

อีเมล์ ทำหน้าที่เป็นเหมือน ฝ่ายขาย เช่นกัน มักใช้กับลูกค้าที่เป็นองค์กรใหญ่ๆ เช่น บริษัทมหาชนอีเมล์ ทำหน้าที่เป็นเหมือน ฝ่ายขาย เช่นกัน มักใช้กับลูกค้าที่เป็นองค์กรใหญ่ๆ เช่น บริษัทมหาชน เพราะลูกค้ากลุ่มนี้จะต้องใช้ช่องทางนี้ในการส่ง ใบเสนอราคา ใบสั่งซื้อ และ ใบแจ้งหนี้ เพื่อทำการยืนยันคำสั่งซื้อ และ แจ้งการโอนเงิน

https://www.facebook.com/profile.php?id=100002097351842